Sunday, November 23, 2008

สองพี่น้องเถ้าแก่น้อย

ตั้งใจว่าจะเล่าตั้งนานแระ แอบผัดผ่อนมาซักระยะ(ใหญ่ๆ) วันนี้ก้อวันสุดท้ายของ 2008 แล้ว ต้องทำให้เสร็จซะทีล่ะ :p ...

เริ่มจากมีความตั้งใจมานานแล้วล่ะ อยากหาอะไรทำวันเสาร์-อาทิตย์ นอกจากเดินห้าง ออกกำลังกาย อ่านหนังสือ จะได้ค่าขนมเพิ่มเติมมาหน่อยก้อยังดี

พอดีไปเที่ยวต่างจังหวัดแล้วเจอเจ้ากระเป๋าสีสดๆ มีคนมารุมล้อมเยอะเหลือเกิน คนนึงหยิบไปก้อคนละ 3-4 ใบ คุยกะน้อง ฮืมม น่าเอามาขายที่เชียงใหม่ ใช้เวลาตัดสินใจไม่นานก้อ เอาล่ะลุยกัน เดี๋ยวผมเป็นนายทุนให้น้องเอาไปขาย กำไรแบ่งกันคนละครึ่ง

เริ่มขายครั้งแรกตอนปลายเดือน ตุลา มาถึงตอนนี้ก้อ สองเดือนแล้วล่ะ ตอนนี้มี P ตัวแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นแล้ว คือ Product ... P อีกตัวที่สำคัญรองลงมาคือ Place

ทำเลๆๆๆๆๆ ว่ากันว่าถ้าตัวนี้ไม่เจ๋งจริง ก้อไม่ต้องคิดถึง P อันอื่นเลย T T โจทย์คือ ต้องเป็นที่ๆ มีกลุ่มเป้าหมายไม่ซ้ำหน้า มีนักท่องเที่ยว เพราะกระเป๋าไม่ใช่สินค้าซื้อซ้ำอ่ะเนาะ ไปๆมาๆ ก้อได้ที่ถนนคนเดินสองที่ในเชียงใหม่ ที่แรกเป็น ถนนคนเดินวัวลายที่เปิดขายวันเสาร์ อีกที่นึงเป็นถนนคนเดินวันอาทิตย์บริเวณวัดพระสิงห์(ขยายมาจากท่าแพ)

ขอเล่าเพิ่มเติมถึงระบบขายของถนนคนเดินกันซะนิดหน่อย โดยปกติแล้วจะมีการจับจองเป็นกรรมสิทธิ์กันจ่ายค่าบำรุงต่อปีไม่กี่ร้อยบาท (ย้ำต่อปี!) นอกนั้นค่าบำรุงทั่วไปต่อวัน 5บาท ละก้อค่าไฟ 10 บาทต่อดวงต่อวัน มาเทียบกับที่กทมแล้วอื้อฮือ อย่าง JJ เนี่ยเดือนละ 15k-20k เลยเอ้า ... ว่าแล้วก้อคุยกะน้องชายให้ไปสืบถามว่าทำอย่างไรจะมีความเป็นเจ้าของได้ ผลปรากฏว่า วันเสาร์ได้สิทธิ์มาเป็นของตัวเอง แต่ ... ไม่ใช่ถนนเส้นหลักของวัวลาย ได้ส่วนต่อขยายบริเวณหน้าวัดศรีสุพรรณแทน T T ...นะ...ไม่เป็นไรคว้าไว้ก่อน แต่อย่างน้อยก้อยังดีที่วันเสาร์ เค้าจะมีการจับฉลากคิวให้คนทั่วไป ได้มาขายแทนเจ้าของพื้นที่บนถนนเส้นหลักที่เค้าไม่ได้มาขาย จะเริ่มจาก

1.) 11 โมงเช้าของวันเสาร์ให้มาจับลูกปิงปองก่อนว่าได้ลำดับในการเรียกให้มาขายแทน แล้วก้อเอาลูกปิงปองไปแลกบัตรสีแดงหลังจากที่ทุกคนจับกันเสร็จ
2.) หลังจากนั้นตอน 1:45 ให้เอาบัตรสีแดงมาแลกเป็นบัตรขาว แล้วลงชื่ออีกที ถ้าใครไม่มาก้อจะเลื่อนลำดับถัดไปขึ้นมาแทน
3.) ตอน 4 โมง ก้อกลับมารอเค้าเรียกชื่อ โดยเราไม่สามารถรู้ได้เลยว่าที่ตรงไหนที่เราจะได้ ขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของที่นั้นๆ ได้โทรมาแจ้งกลับมายังสำนักงานว่าไม่ได้มาขาย เมื่อไหร่ก้อเมื่อนั้นลำดับนั้น ...
4.) ขายของได้ตั้งแต่ 4 โมงเย็น ถึง 5 ทุ่ม (ถ้าเป็นหน้าเทศกาลก้อจะขยายถึง เที่ยงคืน) เวลาขายจะเหมือนกันทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ครับ

ส่วนใหญ่แล้วถ้าเป็นช่วงหน้าเทศกาลจะมีพวกเจ้าของที่กลับมาขายของกันเยอะ ถ้าไม่ได้ลำดับ 10กว่าๆ ก้อเอวังครับ : ( ถ้าเป็นช่วงปกติ 20-30 กว่าๆ ก้อได้ลุ้นอยู่นะ

ส่วนวันอาทิตย์พอดีมีลูกป้าเค้าช่วยหาที่ขายให้โชคดี :D อยู่ใกล้ๆวัดพระสิงห์ตั้งร้านอยู่กลางถนนเลย แจ่มมาก ... เทียบยอดขายสองวันแล้ว วันที่สองจะขายได้เยอะกว่าตลอด ... ฮืม....ครับ อย่างที่บอกของอย่างงี้อยู่ที่ทำเลจริงๆ

ส่วน Price + Promotion ผมรวบเลยละกัน กำไรที่ได้ก้อประมาณ 25-30% ของยอดขาย ถือว่ายังน้อยอยู่นะ ถ้าถือว่าเป็นการขายปลีก (แต่ก้อชนะเงินเฟ้อ อัตราผลตอบแทนพวกกองทุน แหะๆ) เอาหน่ะ ... ถือว่ากินน้อยแต่กินได้เรื่อยๆละกันเนาะ (จริงๆสาวเล็กสาวใหญ่ มาออดอ้อนขอลดหน่อย ก้อไม่เปนไรหยวนๆ อิอิ) เท่าๆที่คำนวณคร่าวๆดูแล้ว ขายไปปะมาณ 3 เดือนกว่าๆก้อจะถึงจุดคุ้มทุน (ลุงทุนไปประมาณ 16k) หากว่าจะลุงทุนเพิ่มขนาดก้ออีกเรื่องนึงน่อ

หน้าที่หลักๆของการขายก้อจะเป็นน้องชาย ส่วนผมจะดูเรื่องการทำบัญชี ติดต่อผู้ผลิต สั่งออร์เดอร์ ละก้อกลับไปช่วยขายด้วยบางครั้ง (ตั้งใจว่าเดือนละครั้ง หรือ ช่วงที่น้องชายติดธุระ)

อื้อลืมเล่าเรื่องชื่อร้าน ... ว่าจะช่วยน้องชายคิดแต่วันนั้นติดงาน น้องชายคิดมาให้ สองสามชื่อ มี รัตนสาน(รัตน นี่มาจาก รัตนพันธุ์ กับ รัตนพล ส่วนสานนี่ตั้งใจให้มันมีอะไรเกี่ยวกับกระเป๋าที่เป็นงานสาน) อีกชื่อนึง ล้านสาน (ล้านมาจากล้านนา) ดูคร่าวๆตอนแรกคิดอยู่ว่า รัตนสานน่าจะแจ่ม แต่ดูความหมายแล้วคืออีกชื่อนึงของเขาพระสุเมรุ อะไรเกี่ยวกับเมรุๆ ก้อเลี่ยงละกัน เลยตกลงกันว่าเอา 'ล้านสาน' เป็นชื่อร้าน (เผื่อได้เงินล้านกะเค้าด้วย :p) หลังจากนั้นก้อได้ชื่อเอาไปทำนามบัตรกันสวยงาม ไว้จะลงรูปร้านเยอะๆอีกทีละกันครับ

ประสบการณ์ในการขายวันแรก ตื่นเต้นมากกก โทรหาน้องแทบทุกชั่วโมง กลัวมันรำคาญนะ แต้ก้ออดตื่นเต้นด้วยไม่ได้ + เป็นห่วง ยอดขายวันแรกไม่เลวเลย 6พันกว่า (อื้อฮือ) ส่วนต่างของราคาทุนผมคำนวณให้แล้วก้อประมาณ สองพัน หลังจากนั้นก้อไม่เลวนะเฉลี่ยๆก้อเดือนนึงได้ส่วนต่างของราคาขายกับคาราทุนประมาณ ห้าถึงหกพัน :)

พูดถึงนอกเหนือจาก กำไรที่จะได้จากการขาย, ความรู้ทั่วๆไปเรื่องการจะเป็นเถ้าแก่ เช่นการเงิน การบัญชี การตลาด, การจัดการทั่วไป (ส่วนการผลิตคงไม่เน้นมากครับ เพราะรับเค้ามาขายอีกที) ... สิ่งที่ได้กลับมาด้วยก้อคือ ถ้าวันไหนลางานกลับมาเชียงใหม่ก้อเหมือนได้กลับมาพักผ่อนไปในตัว ขายเหนื่อยๆก้อแปะมือน้อง แล้วก้อเดินไปหาอะไรกิน เดินดูของแปลกๆ ดูไอเดียของเจ้าของร้านต่างๆ ที่สำคัญ ผมรู้สึกว่าน้องชายรู้ค่าของเงินขึ้นมากกว่าเมื่อก่อนนะ มีความรับผิดชอบมากขึ้น 4 โมงเมื่อไหร่ก้อจะขนถุงกระเป๋า 2-3ใบ ตระแกรง ละก้อเก้าอี้ ไปกับเจ้าเวสป้า (ขนได้เยอะดีจริงๆ)

ถ้าถามถึงอนาคตของการขายกระเป๋านี้ ... รอดูอีกสักหน่อยละกันให้นิ่งๆกว่านี้ ว่ากันว่า ภายในหนึ่งปี ธุรกิจขนาดเล็ก เหลือไม่ถึง 60% มีหลายอย่างอยากทำเพิ่ม เช่นทำเว็บให้น้องชาย (ติดมา 2 เดือนแระ :p ) หาช่องเอายอดวันธรรมดา หรือรวมไปถึง คิดสินค้าใหม่ขึ้นมา เอามา match กับความต้องการของตลาด หรือ สร้างความต้องการของตลาดขึ้นมาใหม่เลย อันนี้ยากหน่อยแต่ผมคิดว่ามันเป็นไปได้อยู่ถ้าพยายามอย่างจริงจัง หรือ ไม่ยอมแพ้กลางทางไปซะก่อน

สุดท้ายนี้ก้อขอเอาใจช่วยคนที่กำลังคิดอยากจะลองเริ่มหาอะไรทำเป็นของตัวเอง เริ่มจากเล็กๆก่อนก้อได้ครับ แล้วค่อยขยายเป็นฝันใหญ่ๆขึ้น

เอาหัวใจคิดเป้าหมายก่อนแล้วค่อยใช้สมองคิดวิธีการที่จะนำเราไปสู่เป้าหมายอีกที ...

ps: ขอให้คนอ่าน ละก้อ คนที่เป็นที่รักของคนอ่านมีความสุข มีสิ่งดีๆเข้ามาในชีวิตกันทั่วหน้าในปี 2009 นะคร๊าบ ^^